วันพุธที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ความเป็นมาของบราวนี่

สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะมาเล่าประวัติความเป็นมาของบราวนี่กันน่ะค่ะ หลายคนคงรู้จักกันดีกับขนมที่มีชื่อว่า "บราวนี่" แต่หลายคนคงไม่รู้ว่าบราวนี่นี้มีความเป็นมายังไง งั้นวันนี้เราจะมาเล่าประวัติให้ฟังน่ะค่ะ

ขอบคุณภาพจาก http://pracob.blogspot.com/2013/07/brownie-chocolate-brownie.html

ช็อกโกแลตบราวนี่ มีลักษณะแบนแบบสี่เหลี่ยมหรือบาร์ที่ถูกนำไปอบเริ่มพัฒนาขึ้นครั้งแรกในสหรัฐอเมริกาตอนปลายศตวรรษที่ 19 และเป็นที่ชื่นชอบทั้งในสหรัฐและแคนาดา ในช่วงครึ่งแรกของศตวรรษที่ 20 บราวนี่เป็นลูกครึ่งระหว่างเค้กและcookie บราวนี่ถูกผลิตมาในรูปแบบต่างๆ บางครั้งก็มีความหนึบหรือ เป็นเนื้อเค้กขึ้นอยู่กับความเข้มข้นและอาจจะมีส่วนผสมของถั่วชนิดต่างๆ, เคลือบน้ำตาล, วิปครีม, ช็อกโกแลตชิพ, หรือส่วนผสมอื่นๆ อาจจะมีการเปลี่ยนรูปแบบการทำเช่น ใช้น้ำตาลแดงและไม่ใส่ช็อคโกแลต โดยจะเรียกว่าบลอนดี้.บราวนี่มักจะเป็นส่วนหนึ่งของกล่องอาหารกลางวัน เพราะสามารถใช้มือจับทานได้สะดวกและมักจะทานร่วมกับนมหรือกาแฟ บางครั้งก็เสิร์ฟแบบอุ่นๆ กับไอศครีม (อาลาโมด)ราดหน้าด้วยวิปครีมหรือมาร์ซิแพนหรือโรยด้วยผงน้ำตาลป่น บราวนี่เป็นที่นิยมอย่างมากในร้านอาหารทั่วไป ถูกพบมากอย่างหลากหลายในเมนูของหวาน

มีตำนานเกี่ยวกับบราวนี่ได้กล่าวไว้ว่า
มีตำนานอยู่ 3 เรื่องเกี่ยวกับที่มาของบราวนี่ ตำนานแรกกล่าวว่า พ่อครัวได้ใส่ช็อคโกแลตละลายลงในก้อนแป้งบิสกิตโดยไม่ได้ตั้งใจ ตำนานที่สองกล่าวว่า พ่อครัวลืมเติมแป้งเข้าไปในส่วนผสมของที่ตีรวมกันแล้ว และตำนานที่สามที่เป็นความเชื่อที่เป็นที่นิยมคือ แม่บ้านคนหนึ่งไม่มีผงฟูเลยดัดแปลงสูตรใหม่ ว่ากันว่าเธอเตรียมของหวานสำหรับแขกและตัดสินใจที่จะเสิร์ฟเค้กแบนๆที่อบแล้วนี้ ตำนานทั้งสามเรื่องเป็นที่นิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ 



ขอบคุณภาพจาก https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%8A%E0%B9%87%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B9%82%E0%B8%81%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%95%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B9%88


ประวัติ

พ่อครัวคนหนึ่งในโรงแรมพาล์มเมอร์เฮาส์ที่ชิคาโกได้คิดขนมขึ้นมาชนิดหนึ่ง จากที่เบอร์ธา พาล์มเมอร์อยากจะได้ของหวานสำหรับสุภาพสตรีที่มาเข้าร่วมในงานแสดงสินค้านานาชาติที่ชิคาโกในปี ค.ศ. 1893 เธอบอกว่า ของหวานนั้นน่าจะต้องมีขนาดเล็กกว่าเค้ก แต่ก็ต้องยังคงมีลักษณะคล้ายเค้กและสามารถรับประทานได้ง่ายโดยจะบรรจุในกล่องอาหารกลางวัน บราวนี่ชนิดแรกที่ว่านี้มีส่วนผสมของแอปปริคอทโรยหน้าและวอลนัทและ ปัจจุบัน ที่โรงแรมก็ยังทำบราวนี่ตามสูตรดั้งเดิมขายอยู่สูตรบราวนี่ที่ทำกันในปัจจุบันที่ได้รับการตีพิมพ์ครั้งแรกในหนังสือการปรุงอาหารในบ้าน (ปี 1904, ลาโคเนีย, นิวแฮมเชียร์), หนังสือตำราอาหารของสโมสรบริการ (1904, ชิคาโก, อิลินอยส์), เดอะบอสตันโกลบ (2 เมษายน 1905 หน้า 34),และตำราอาหารของโรงเรียนสอนการทำอาหารบอสตันฉบับที่ตีพิมพ์ในปี ค.ศ. 1906 เขียนโดยแฟนนี่ เมอร์ริท ฟาร์มเมอร์ สูตรอาหารเหล่านี้เป็นบราวนี่ที่มีรสชาติค่อนข้างนุ่มนวลและมีลักษณะคล้ายๆ เค้ก ชื่อของ"บราวนี่"เกิดขึ้นครั้งแรงในตำราอาหารที่ถูกตีพิมพ์ในปี ค.ศ. 1896 แต่ถูกกล่าวถึงในรูปของเค้กที่ทำจากกากน้ำตาลในแม่พิมพ์ดีบุกไม่ใช่บราวนี่จริงๆสูตรอาหารที่สองถูกพบเมื่อปี ค.ศ. 907 ในตำราอาหารของลอว์นี่เขียนโดยมาเรีย วิลเลท โฮเวิร์ดตีพิมพ์โดยบริษัท วอลเตอร์ เอ็ม ลอว์นี่แห่งบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ สูตรนี้มีการเพิ่มไข่และแท่งช็อกโกแลตลงในสูตรของโรงเรียนสอนการทำอาหารบอสตันทำให้บราวนี่มีรสชาติเข้มข้นและหนึบมากขึ้น สูตรนี้มีชื่อว่า แบงกอร์บราวนี่ ซึ่งอาจมาจากเหตุผลที่ว่าสูตรนี้ สุภาพสตรีชาวแบงกอร์ รัฐเมน แบงกอร์บราวนี่ได้รับการจัดอันดับเป็นที่ 3 จาก 10 สุดยอดอาหารว่างใน 2-3 ปีต่อมา


อ้างอิง
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%8A%E0%B9%87%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B9%82%E0%B8%81%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%95%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B9%88

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น